ข่าวสาร & กิจกรรม
PSTC Leader in Power Supply Solution
and Renewable Energy
PSTCอัดงบพันล.ลุยโซลาร์รูฟ ปักเป้าคว้าPPA200เมกะวัตต์
19 พฤศจิกายน – PSTC อัดฉีดงบ 1 พันล้านบาท ขยาย PPA โซลารูฟท็อปเพิ่มอีก 30-50 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเป้าคว้าใบอนุญาตรวม 200 เมกะวัตต์ภายในปี 64 ด้านธุรกิจขายก๊าซปิโตรเลียม LPG อยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ารายใหญ่ คาดได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้
ดร.พระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่ 20% จากปี 2562 ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20 – 25% โดยแรงขับเคลื่อนจะมาจากธุรกิจหลัก 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจการติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า, ธุรกิจขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากพลังงานหลักและพลังงานทดแทน, ธุรกิจขายก๊าซปิโตรเลียม, ธุรกิจก่อสร้าง (EPC) เป็นต้น
อัดฉีดงบพันล้าน
ทั้งนี้ บริษัทวางงบประมาณการลงทุนในปี 2563 ไว้ที่ราว 500 – 1,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการลงทุนขยาย Private PPA หรือโครงการติดตั้งโซล่ารูฟท็อป(Solar looftop) บนหลังคาให้กับลูกค้าทั้งส่วนงานโครงการของภาครัฐและภาคเอกชน โดยบริษัทมีเป้าหมายจะขยาย Private PPA เพิ่มเข้ามาอีก 30 – 50 เมกะวัตต์(MW) ต่อปี ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยประมาณ 25 – 30 ล้านบาทต่อ 1 MW สอดคล้องกับเป้าของบริษัทที่จะมีใบอนุญาตในการซื้อขายไฟฟ้ารวม 200 MW ภายในปี 2564
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน(CLMV) ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับทางหน่วยงานภาครัฐท้องถิ่นหลายราย เพื่อเข้าลงทุนในโครงการพลังงานทดแทน โดยบริษัทมองว่ายังมีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าไปขยายการเติบโตในต่างประเทศ ทั้งนี้ การลงทุนในแต่ละโครงการบริษัทวางเป้าหมายผลตอบแทนของการลงทุน(IRR) จะต้องไม่ต่ำกว่า 10%
โชว์โครงการในมือ
ปัจจุบันบริษัทมี Private PPA ในมือแล้วกว่า 70 MW ซึ่งออกเป็นใบอนุญาตที่มีการจำหน่ายไฟฟ้าแล้วจำนวน 30 MW แบ่งออกเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิตรวม 8 MW และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิตรวม 15 MW และโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพ ขนาดกำลังการผลิตรวม 7MW และภายในเดือนธันวาคม 2562 จะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ และจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเพิ่ม 5.6 MW
ขณะที่ธุรกิจก่อสร้าง หรือ EPC นั้น ต้องยอมรับว่าในส่วนนี้การเติบโตอาจไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้โอกาสในการเข้ารับงานใหม่ที่ยากขึ้น อย่างไรก็ดีปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอส่งมอบกับลูกค้า(Backlog) ซึ่งรวมส่วนของธุรกิจติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและธุรกิจก่อสร้างรวมกว่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้เข้ามาเป็นรายได้อย่างต่อเนื่องไปอีก 2 ปีจากนี้ (2563 – 64)
ส่วนธุรกิจขายก๊าซปิโตรเลียม LPG นั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้าจากความร้อนและความเย็น ที่มีอายุสัญญาระยะ 10 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีก 5 ปี โดยบริษัทจะต้องลงทุนในการติดตั้งถังบรรจุ LNG มูลค่ารวมราว 40 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปการเซ็นสัญญาขาย LNG ได้ภายในสัปดาห์นี้ (18-22 พ.ย.62) ซึ่งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพกับบริษัทในระยะยาว