ข่าวสาร & กิจกรรม

PSTC Leader in Power Supply Solution
and Renewable Energy

PSTC ควบ BIGGAS สุดสตรอง หนุนรายได้วิ่งชน 1.2 หมื่นล้าน

 

 

สิงหาคม 8, 2019ทันหุ้น – PSTC แข็งแกร่งหลังควบรวม BIGGAS เชื่อรายได้ทะยานแตะ 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 2567 พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ ปูทางขยายงานในอนาคต แย้มแผนยกชั้นย้ายเข้าเทรดกระดาน SET เปิดโอกาสลงทุนเพิ่ม

นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันที่ 6 สิงหาคม 2562 อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 19 กันยายน 2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าลงทุนใน BIGGAS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 51% ด้วยการรับโอนหุ้นสามัญอีกจำนวน 49% มูลค่ารวม 4.26 พันล้านบาท จาก BGTH ภายใต้กระบวนการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer :EBT) โดยบริษัทจะซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดจาก BGTH ด้วยการชำระค่าตอบแทนเป็นหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท จำนวน 4.98 พันล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 42% ภายหลังการเพิ่มทุน กำหนดราคาหุ้นเพิ่มทุนออกใหม่ที่ 0.86 บาท/หุ้น มูลค่ารวม 4.26 พันล้านบาท

เข้าลงทุนBGTH 100%

สำหรับการเข้ามาถือหุ้นของ BGTH ในสัดส่วน 42% ทำให้มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท แต่ BGTH จะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อนการเข้าทำรายการดังกล่าว โดย BGTH จะเป็นเพียงตัวกลางในการถือหุ้นของบริษัทของผู้ถือหุ้นของ BGTH ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการดังกล่าวแล้ว BGTH จะจดทะเบียนยกเลิกบริษัท และโอนหุ้นของบริษัททั้งหมดที่ถือโดย BGTH กลับคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BGTH ภายใต้กระบวนการชำระบัญชี ก็จะส่งผลให้ท้ายที่สุดผู้ถือหุ้น BGTH จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท

โดยแผนการเข้าลงทุนดังกล่าวบริษัทต้องการปรับโครงสร้างการดำเนินงาน ซึ่งโครงสร้างธุรกิจจะแยกออกมาชัดเจนเนื่องจากอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือมีความใกล้เคียงกัน ทำให้อาจจะมีข้อจำกัดซึ่งกันและกัน อีกทั้งภาระหนี้สิน และการกู้ยืมเงินของบริษัทย่อยจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้บริหารจัดการยากหากถือหุ้น 51% ไม่ว่าจะโครงสร้างทางการเงิน โครงสร้างเงินกู้ ประกอบกับภาวะตลาดการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือIPO ที่ชะลอตัวลงอีกทั้งบริษัทคาดได้ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อน เพื่อลดต้นทุนในการบริการงานได้ดีขึ้น

โครงสร้างธุรกิจ PSTC

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีโครงสร้างบริหารที่เหมือนเดิม โดยผู้ก่อตั้ง PSTC ถือหุ้นรวมกัน 35% และกลุ่มนายธนัชปวรวิปุลยากร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BGTH ถือร่วมกันประมาณ 35% เมื่อรวมหุ้นกันแล้วมีจำนวนหุ้นมากกว่า 70% ที่เหลือเป็นพันธมิตรรายใหญ่อีกประมาณ 5%

ดร.พระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC  กล่าวต่อว่า สำหรับโครงสร้างธุรกิจของ PSTC ในอนาคตบริษัทจะมีโครงสร้างธุรกิจจาก 1.ธุรกิจติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า ซึ่งอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดจะมีรายได้ในปีนี้ราว 1 พันล้านบาท 2.ธุรกิจพลังงานหลักและพลังงานทดแทน ซึ่งบริษัทมีแผนจะขยาย Private PPA หรือโครงการติดตั้งโซล่ารูฟท็อปบนหลังคาให้กับลูกค้าโดยตรง โดยตั้งเป้าจะมีกำลังการผลิตที่ 40 เมกะวัตต์ในปีนี้ รวมถึงจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ หรือ COD อีก 5.6 เมกะวัตต์ในเดือนนี้ทำให้ในทั้งปีคาดจะมีกำลังการผลิตที่ COD ทั้งหมด 35.6 เมกะวัตต์ จากใบอนุญาตหรือ PPA ที่มีทั้งหมด 70 เมกะวัตต์

3.ธุรกิจจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวทั้ง LPG , NGV และ LPG 4.ธุรกิจคลังขนส่งท่อน้ำมันในภาคตะวัตออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างตามแผน คาดจะเริ่ม COD ได้ในปี 2564 และ5.ธุรกิจการรับเหมาก่อสร้างคลังขนส่งท่อน้ำมันล่าสุดได้รับบันทึกข้อตกลง(MOU) สำหรับโครงการก่อสร้างคลังน้ำมันเชื้อเพลิง ของ บริษัท เอ็นเอฟซีที จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC ซึ่งเป็นงานก่อสร้างคลังน้ำมันเชื้อเพลิงความจุ 90 ล้านลิตร ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองมูลค่าโครงการมากกว่า 1 พันล้านบาท

ดันรายได้แตะ 1.2 หมื่นล.

ทั้งนี้คาดการเติบโตของรายได้รวมในปีถัดไป 2563-2564 จะเพิ่มขึ้น 30-40% จากการรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยเข้ามาเต็ม 100% ส่วนในปี 2565 คาดรายได้จะเติบเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 8 พันล้านบาทตามการรับรู้รายได้จากการขนส่งท่อน้ำมันภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนในปี 2567 คาดรายได้จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท จากปี 2561 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท

อย่างไรก็ดีบริษัทเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความแข็งแรงและมั่นใจเพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต และบริษัทยังมีแผนจะที่ย้ายหลักทรัพย์ PSTC เข้าไปจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อขยายโอกาสในการลงทุนในอนาคต

ที่มา: https://www.thunhoon.com/206573/29/44/