ข่าวสาร & กิจกรรม

PSTC Leader in Power Supply Solution
and Renewable Energy

PSTC งัดสูตรแลกหุ้น กลืนบิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี 49% รวมเป็น100% หวังรับรู้ผลการดําเนินงานทั้งหมดจากการประกอบธุรกิจของ BIGGAS

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(7สิงหาคม2562)----นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการบริษัท บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จํากัด (มหาชน)PSTC เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการ อนุมัติการเข้าทํารายการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จํากัด ("BIGGAS”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นสามัญในจํานวน 41,632,000 หุ้น หรือ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 ของหุ้นที่ออกและชําระแล้ว โดยบริษัทฯ จะเข้าทํารายการรับโอน หุ้นสามัญของ BIGGAS จํานวน 39,999,998 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49 ของจํานวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ทั้งหมดของ BIGGAS คิดเป็นมูลค่ารวม 4,263,000,000 บาท (“หุ้นสามัญของ BIGGAS") จาก บริษัท บีจีที โฮ ลดิ้ง จํากัด (“BGTH") ภายใต้กระบวนการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer หรือ EBT) โดยบริษัทฯ จะซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมดจาก BGTH ซึ่งหมายถึง ทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ทั้งหมดของ BGTH ที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีในอนาคต ณ วันโอนกิจการ

ทั้งนี้ BGTH ไม่มีหนี้สินใด ๆ และมี เพียงหุ้นสามัญของ BIGGAS ณ วันโอนกิจการ ดังนั้น ณ วันโอนกิจการ บริษัทฯ จะรับโอนมาซึ่งหุ้นสามัญของ BIGGAS มูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,263,000,000 บาท (“ธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมด")

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะชําระค่าตอบแทนสําหรับธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมดให้กับ BGTH ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ ออกใหม่ของบริษัทฯ จํานวน 4,981,094,116 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 42 ของ จํานวนหุ้นที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุน โดยกําหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ราคาหุ้นละ 0.86 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,263,000,000 บาท โดยเสนอขายแบบ เฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจํากัด (Private Placement) ให้แก่ BGTH เพื่อเป็นค่าตอบแทนธุรกรรมการรับโอน กิจการทั้งหมดแทนการชําระค่าตอบแทนด้วยเงินสด (Payrment in Kind) ("ธุรกรรมการจัดสรรหุ้นเพื่อตอบ แทนการรับโอนกิจการทั้งหมด") ซึ่งถือเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาตลาด ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุนที่ ทจ.72/2558 เรื่อง การอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียน เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจํากัด (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศ ทจ.72/2558)

ในการเข้าทํารายการลงทุนดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขตามประมวลรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับการโอน กิจการทั้งหมด BGTH จะต้องจดทะเบียนเลิกบริษัทภายในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันกับการโอนกิจการทั้งหมด ของ BGTH โดยวันสิ้นสุดรอบบัญชีของ BGTH ตรงกับวันที่ 30 เมษายน ของทุกปี ด้วยเหตุนี้ ภายหลังการจด ทะเบียนเลิกบริษัท ผู้ชําระบัญชีของ BGTH จึงต้องโอนทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ ณ เวลาดังกล่าวของ BGTH ซึ่ง ได้แก่หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่ออกและเสนอขายให้แก่ BGTH เพื่อเป็นค่าตอบแทนการรับโอนกิจการ ทั้งหมดคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BGTH ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นของ BGTH ถืออยู่ เพื่อให้การชําระบัญชี เสร็จสิ้น ภายใต้กระบวนการโอนกิจการทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ในท้ายที่สุดผู้ถือหุ้นของ BGTH จะเข้ามาเป็นผู้ถือ หุ้นของบริษัทฯ

จากการที่ BGTH จะได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในสัดส่วนร้อยละ 42 ของหุ้นที่ออกและชําระแล้ว ของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชําระแล้ว นั้น BGTH จะมีหน้าที่ต้องทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ฯ ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน ที่ ทจ. 12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือ หลักทรัพย์เพื่อครอบงํากิจการ ("ประกาศเรื่องการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงํากิจการ") อย่างไรก็ตาม BGTH จะดําเนินการขอผ่อนผันการทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ ต่อสํานักงานคณะกรรมการ กํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ("สํานักงาน ก.ล.ต.) ก่อนการเข้าทํารายการ เนื่องด้วยกรณีมีเหตุจําเป็น และสมควร จากการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทฯ เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ในการเข้าทํารายการดังกล่าว BGTH จะเป็น เพียงตัวกลางในการถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ของผู้ถือหุ้นของ BGTH ซึ่งภายหลังการเข้าทํารายการดังกล่าว BGTH จะจดทะเบียนเล็กบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และโอนหุ้นของบริษัทฯ ทั้งหมดที่ ถือโดย BGTH กลับคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BGTH ภายใต้กระบวนการชําระบัญชี ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไข การโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามประมวลรัษฎากร พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวงและประกาศอธิบดี กรมสรรพากรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะส่งผลให้ในท้ายที่สุด ผู้ถือหุ้นของ BGTH จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

นอกจากนี้ ในส่วนการโอนหุ้นของบริษัทฯ ให้ผู้ถือหุ้นของ BGTH ภายหลังการเลิกบริษัทและชําระบัญชีของ BGTH ตามรายละเอียดที่ปรากฏข้างต้นนั้น ไม่มีผู้ถือหุ้นรายใตของ BGTH ที่จะมีหน้าที่ต้องทําคําเสนอซื้อ หลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทฯ โดยภายหลังจากกระบวนการทํา EBT นายธนัช ปวรวิปุลยากร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น ใหญ่ใน BGTH จะถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในจํานวนไม่เกิน 2,590,168,945 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.84ของหุ้นที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ และ ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น วันที่ 4 มิถุนายน 2562 เมื่อ นับรวมหุ้นของบริษัทฯ ที่ถือโดยนายธนัช ปวรวิปุลยากร จํานวน 59,000,000 หุ้น และบุคคลตามตามมาตรา 258 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) ("บุคคลตามมาตรา 258") ของนายธนัช ปวรวิปุลยากร (หากมี) จะมีผลให้นายธนัช ปวรวิปุลยากรและบุคคลตามมาตรา 258 ถือหุ้น ของบริษัทฯ รวมทั้งสิ้นจํานวน 2,649,168,945 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.34 ของหุ้นที่ออกและชําระแล้ว ทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเพิ่มทุนชําระแล้ว ทั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นของ BGTH ทุกรายไม่เข้าข่ายมีลักษณะ ความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมที่เข้าลักษณะเป็นการกระทําร่วมกัน (Acting in Concert) ตามประกาศคณะกรรมการ กํากับตลาดทุนที่ ทจ. 7/2552 เรื่อง กําหนดลักษณะความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมที่เข้าลักษณะเป็นการกระทํา ร่วมกับบุคคลอื่น และการปฏิบัติการตามมาตรา 246 และมาตรา 247 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) แต่อย่างใด

"บริษัทฯ จะเข้าทํารายการหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2562 โดยบริษัทฯ คาดว่า การทํารายการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 "นายภาณุกล่าวและว่า
บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นําด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและพลังงานของประเทศ รวมถึงการเป็นผู้ ให้บริการทางด้านธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร การพิจารณาเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ BIGGAS เพิ่มในสัดส่วนร้อยละ 49 ของหุ้นที่ออกและชําระแล้วทั้งหมดของ BIGGAS ซึ่งจะทําให้บริษัทฯ ถือหุ้นสามัญใน BIGGAS ทั้งหมดในสัดส่วน ร้อยละ 100 นั้น


บริษัทฯ คาดว่าจะเกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ ดังต่อไปนี้

(1) โอกาสในการขยายธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ

การพิจารณาเข้าลงทุนดังกล่าว จะเป็นการสร้างโอกาสในการขยายการเติบโตของธุรกิจพลังงานของบริษัทฯ และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในด้านการประกอบธุรกิจ พลังงานอย่างครบวงจร ซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจการจําหน่ายเชื้อเพลิงผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม ธุรกิจการ ให้บริการวิศวกรรมพลังงานที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ ด้านการวางระบบท่อส่งก๊าซ ท่อส่งน้ํามัน ระบบ เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สําหรับภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ทีมงานและบุคลากรที่มี ความรู้ ความสามารถเฉพาะทาง และธุรกิจให้บริการขนส่งน้ํามันโดยระบบขนส่งทางท่อซึ่งเป็นธุรกิจที่มี ศักยภาพและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต ทั้งนี้ การที่บริษัทฯ เข้าลงทุนใน BIGGAS เพิ่มในสัดส่วนร้อยละ 49 โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ฯ เพื่อชําระสิ่งตอบแทน จะทําให้บริษัทฯ ได้มาซึ่งพันธมิตรทางธุรกิจที่สําคัญซึ่งจะได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของ บริษัทฯ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสามารถแข่งขันและการเติบโตร่วมกันไปกับบริษัทฯ ในระยะยาว โดยมิต้องมี ข้อกังวลเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือข้อจํากัดในการประกอบธุรกิจในบางส่วนที่อาจคล้ายคลึงกัน เช่น ธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมพลังงาน หรือ EPC ด้วยเหตุนี้ การเข้าทํารายการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริม การต่อยอดและขยายธุรกิจพลังงานของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

(2) เสริมสร้างผลดําเนินงานและสภาพคล่องของบริษัทฯ

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการรับรู้กําไรจากผลการดําเนินงานของ BIGGAS ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 51 อย่างไรก็ดี การพิจารณาเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ BIGGAS ในครั้งนี้ จะมีผลทําให้บริษัทฯ ถือหุ้นสามัญของ BIGGAS ในสัดส่วนร้อยละ 100 และสามารถรับรู้ผลการดําเนินงานทั้งหมดจากการประกอบธุรกิจของ BIGGAS ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างผลการดําเนินและกระแสเงินสดให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ได้ในอนาคต นอกจากนี้ การ พิจารณาเข้าทํารายการลงทุนโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ แทนการชําระค่าตอบแทนเป็นเงินสด นั้น จะทําให้บริษัทฯ สามารถลดภาระในการจัดหาเงินลงทุน ภาระในการก่อหนี้ และเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ บริษัทฯ โดยการสํารองเงินสดไว้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือค่าใช้จ่ายในโครงการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ ในขณะที่บริษัทฯ จะได้ผู้ถือหุ้นที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สําคัญและมีประสบการณ์ในธุรกิจพลังงานเข้ามาช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจให้มีการเติบโตในอนาคต (3) สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในระยะยาว เนื่องจาก BIGGAS และบริษัทย่อยเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานเชื้อเพลิงที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มที่จะ เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต การพิจารณาเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ BIGGAS ดังกล่าว จะช่วยเพิ่มโอกาสใน การขยายธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในระยะยาว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการระดมทุนของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคต

"บริษัทฯ จะชําระค่าตอบแทนสําหรับการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของ BIGGAS ดังกล่าว โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัทฯ จํานวน 4,981,094,116 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.86 บาท รวมเป็นมูลค่า 4,263,000,000 บาท ให้แก่ BGTH แทนการจ่ายเงินสด บริษัทฯ จึงไม่มีภาระในการจัดหาแหล่งเงินทุน"นายภาณุกล่าวกล่าว


BIGGAS และบริษัทย่อย (รวมเรียกว่า “กลุ่ม BIGGAS) ประกอบธุรกิจหลักด้านธุรกิจพลังงาน โดยแบ่งประเภท การดําเนินธุรกิจ ดังนี้ 1) ธุรกิจจําหน่ายก๊าซ ดําเนินการโดย BIGGAS ประกอบธุรกิจการค้าก๊าซปิโตรเลียม (LPG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “BIGGAS” ซึ่งในปี 2558 BIGGAS ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ค้าน้ํามันตามมาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติการค้าน้ํามันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 โดยมีช่องทางการจัดจําหน่ายก๊าซ ออกเป็น 2 ลักษณะ คือการขายส่งเป็นการจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์ก๊าซให้แก่ลูกค้าประเภทสถานีบริการก๊าซ LPG โรงงาน อุตสาหกรรม และโรงบรรจุก๊าซ LPG ในปัจจุบัน BIGGAS จะนําก๊าซ LPG มาบรรจุลงถังบรรจุก๊าซภายใน โรงบรรจุก๊าซ โดย BIGGAS เป็นผู้ดําเนินการเอง และจัดส่งให้กลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นร้านค้าก๊าซตามพื้นที่ ต่างๆ ในเขตปริมณฑล การจําหน่ายแบบถังบรรจุก๊าซขนาดย่อม (Cylinder) ซึ่งเป็นการบรรจุก๊าซ LPG ใส่ในถังบรรจุขนาดย่อม เพื่อขายภาคครัวเรือน

นอกจากนี้ ในปี 2562 BIGGAS เริ่มมีการจําหน่ายก๊าซ LNG (Liquefied Natural Gas) หรือ “ก๊าซธรรมชาติ เหลว" ให้กับกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทั้งนี้ ลักษณะผลิตภัณฑ์ คือ ก๊าซธรรมชาติที่ถูกลดอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ -160 องศาเซลเซียส จนเนื้อก๊าซมี ปริมาตรลดลงกว่า 600 เท่า และเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวเพื่อให้สะดวกและขนส่งได้ในปริมาณมาก ลักษณะ การจัดจําหน่ายแบบขายส่ง โดยจะขนส่งทางรถจากคลัง ปตท. ที่มาบตาพุด จังหวัดระยองไปยังโรงงานลูกค้า โดยตรง ทั้งนี้ BIGGAS จะมีการลงทุนติดตั้งถังเก็บและสถานีจ่ายก๊าซ LNG ให้แก่โรงงานลูกค้าโดยมีสัญญาซื้อขายในระยะยาว 5-10 ปี 2) ธุรกิจให้บริการทางด้านวิศวกรรมพลังงาน ดําเนินการโดย BIGGAS โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ได้แก่

- งานปฏิบัติการดูแลและบํารุงรักษาสถานบริการก๊าซธรรมชาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล รวมถึงภูมิภาค กล่าวคือในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมกว่า 160 สถานี งานออกแบบ รับเหมา ก่อสร้าง ซ่อมแซมอาคารสถานี และอุปกรณ์ระบบเติมก๊าซธรรมชาติ ให้กับสถานีบริการก๊าซธรรมชาติทั้งระบบ

- งานจัดหาและติดตั้งเครื่องสูบอัดก๊าซธรรมชาติ (Compressor) พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบงานซ่อมบํารุงและดูแลรักษาเครื่องสูบอัดก๊าซธรรมชาติ ซ่อมแซมตู้จ่ายก๊าซธรรมชาติและอุปกรณ์ รวมถึง ซ่อมแซมท่อก๊าซใต้ดิน ในสถานีบริการก๊าซธรรมชาติงานซ่อมแซมและทดสอบถังขนส่งก๊าซธรรมชาติบนรถบรรทุกขนส่งก๊าซ (Long Tube)

- งานจําหน่ายถังขนส่งก๊าซธรรมชาติและชุดอุปกรณ์ 3) ธุรกิจสถานีขายปลีกก๊าซธรรมชาติสําหรับยานยนต์ (NGV) ในเส้นทางคมนาคมหลัก ดําเนินการโดย บริษัท เจเอ็น เอ็นเนอร์จี คอร์ปอเรชั่น จากัด (“JN”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดย BIGGAS ร้อยละ 100 ในปัจจุบันมี สถานีบริการก๊าซธรรมชาติแนวท่อ (Conventional Station) จํานวน 2 แห่ง บนถนนมิตรภาพ อําเภอแก่งคอย
จังหวัดสระบุรี และอําเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น 4) ธุรกิจให้บริการขนส่งน้ำมันโดยระบบขนส่งทางท่อ (Logistics) ดําเนินการโดย บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์คจํากัด (TPN”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดย BIGGAS เพื่อพัฒนาโครงการท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยท่อขนส่งน้ำมันดังกล่าวจะให้บริการขนส่งน้ำมันจาก จุดเริ่มต้นที่คลังน้ำมัน บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จํากัด (Thappline) ที่อําเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือผ่าน จังหวัดสระบุรี ลพบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ และมีจุดสิ้นสุดที่ปลายทางซึ่งเป็นคลังน้ำมันขนาด 150 ล้านลิตร ที่ จังหวัดขอนแก่น รวมระยะทางในการให้บริการขนส่งทางท่อประมาณ 342 กิโลเมตร โดย ณ คลังปลายทางที่ จังหวัดขอนแก่นจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการกระจายน้ช้ำมันเชื้อเพลิงสู่ภูมิภาคและกลุ่มประเทศในประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ได้แก่ ลาว โดยในวันที่ 8 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นที่ เรียบร้อย

สำหรับผลประกอบการ BIGGAS ปี2559 มีกำไรสุทธิ 17.22 ล้านบาท ปี2560 มีกำไรสุทธิ 11.45 ล้านบาทและปี2561 มีกำไรสุทธิ 60.56 ล้านบาท

ที่มา: https://www.hooninside.com/news-feed/117529/view/