ข่าวสาร & กิจกรรม

PSTC Leader in Power Supply Solution
and Renewable Energy

PSTC จับมือ `ไชน่า ปิโตรเลียมฯ` ก่อสร้างระบบขนส่งน้ำมันทางท่อภาคอีสาน

 

 


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -27 ก.พ. 62 15:28 น. 

  บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ TPN บริษัทในเครือ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) หรือ PSTC ลงนามเซ็นสัญญาร่วมกับไชน่า ปิโตรเลียมไปป์ไลน์ บูโร (CPP) เพื่อเดินหน้าก่อสร้างโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท คาดเริ่มเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4/61 เพื่อช่วยประหยัดพลังงานภาคขนส่ง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนลดลง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทย

  นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ในฐานะกรรมการ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ TPN กล่าวผ่านเอกสารเผยแพร่ว่า TPN ได้ลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับ ไชน่า ปิโตรเลียมไปป์ไลน์ บูโร (CPP) เพื่อเข้ามาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้ โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกบริษัทรับก่อสร้างและวางท่อขนส่งน้ำมัน CPP เพราะมีความชำนาญด้านการวางท่อขนส่งก๊าซและน้ำมันขนาดใหญ่มากกว่า 40 ปีมีประสบการณ์และผลงานการวางท่อขนส่งน้ำมัน และก๊าซทั่วโลกกว่า 100,000 กิโลเมตร ในทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางรัสเซีย และในเอเชียบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่า CPP จะสามารถทำการดำเนินการก่อสร้างและวางท่อน้ำมันให้ได้ตามมาตรฐานโลก โดยมีมูลค่าของสัญญาจ้างกว่า 9,000 ล้านบาท และกำหนดระยะเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 เดือน คาดว่าระบบขนส่งน้ำมันทางท่อนี้จะสามารถเริ่มเปิดดำเนินการได้ประมาณไตรมาสที่ 4 ของปี 2564

  สำหรับโครงการนี้ประกอบไปด้วยการวางระบบท่อขนส่งน้ำมันระยะทาง 342 กิโลเมตร ผ่าน 55 ตำบล 18 อำเภอ 5 จังหวัด โดยการก่อสร้างเริ่มจากอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ไปสิ้นสุดที่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น และมีการก่อสร้างคลังน้ำมันปลายทางที่อำเภอบ้านไผ่ ขนาด 140 ล้านลิตร

  เมื่อระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อดังกล่าวแล้วเสร็จ จะลดปริมาณการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกลงไปจำนวน 88,000 เที่ยวต่อปี คิดเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่งลงไปได้กว่า 15.4 ล้านลิตรต่อปี ซึ่งนับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ตลอดทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ถนน เพิ่มความปลอดภัย ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ และลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงถนนไปได้อีกเป็นจำนวนมาก และยังทำให้ราคาน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศมีราคาที่ลดลงเพราะมีต้นทุนการขนส่งที่ต่ำลง

  นอกจากนี้บริษัทฯ และไชน่า ปิโตรเลียมไปป์ไลน์ บูโร อยู่ระหว่างร่วมมือกันในการศึกษาความเป็นไปได้ในการที่จะขยายการวางท่อขนส่งน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งน้ำมันไปจำหน่ายยังประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอาศัยการนำเข้าน้ำมันจากประเทศไทยปีละกว่า 1,200 ล้านลิตร และมีแนวโน้มการบริโภคน้ำมันที่สูงเพิ่มขึ้นทุกปีจากความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ และสังคมในประเทศดังกล่าว

  “บริษัทไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากกระทรวงพลังงานเห็นชอบให้เป็นผู้ดำเนินโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จนอกเหนือจากประโยชน์ที่จะได้รับในด้านราคาน้ำมันที่ลดลง ประสิทธิภาพในการขนส่งที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคขยายตัวเพิ่มขึ้น ประเทศไทยก็จะมีความมั่นคงในด้านการจัดหาพลังงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศโดยมีส่วนทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง" นายภาณุ กล่าวเพิ่ม

  ทั้งนี้ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2558 เห็นชอบให้ดำเนินการพัฒนาโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ TPN ได้รับความเห็นชอบให้เป็นผู้ดำเนินโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่ผ่านมา TPN ได้พัฒนาโครงการทั้งด้านการสำรวจเส้นทาง การออกแบบระบบทางวิศวกรรม และตลอดจนยื่นผลการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นที่เรียบร้อยและได้รับการอนุมัติผลการศึกษาเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562

ลักษณะธุรกิจของ PSTC
การประกอบธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยสามารถแบ่งออกตามประเภทของการดำเนินธุรกิจเป็น 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่1.ธุรกิจออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อม ซึ่งดำเนินการโดย PSTCได้แก่ ระบบสำรองไฟฟ้า ระบบตรวจวัดและจัดการสภาพแวดล้อม ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และระบบประหยัดพลังงาน 2.ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยบริษัทย่อย 3. ธุรกิจจำหน่ายและขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเหลว