สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 29มิถุนายน 2561)--------"พระนาย กังวาลรัตน์ " PSTC คาดผลงานQ2/61 โตกว่าQ1/61 หลังโรงไฟฟ้าดำเนินงานได้ตามแผน -มั่นใจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก เผยความคืบหน้านำบิ๊กแก๊ส เข้าตลาดหุ้น คาดยื่น Filing ไตรมาสแรกปี 63 พร้อมให้สิทธิ์ผู้ถือหุ้นเดิมจอง IPO เผยโครงการท่อน้ำมันส่วนขยายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอ EIAในเดือน ก.ค. นี้ คาดได้รับอนุมัติภายในปลายปีนี้ แย้มเดินสายพบกองทุนในประเทศ ผลตอบรับดี ได้คำชมสินทรัพย์รวมโตเร็วถึง 6 พันลบ. พร้อมศึกษาย้ายเข้าเทรดกระดาน SET จากปัจจุบันเทรดใน mai ขณะที่มองราคาหุ้นปรับลง ตามภาวะตลาด ชี้เป็นโอกาสสะสมหุ้นในระยะยาว จากพื้นฐานแข็งแรง

นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) PSTC เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการไตรมาส2/2561 จะเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับไตรมาส1/2561 เนื่องจาก โรงไฟฟ้าดำเนินงานได้ตามแผน ขณะที่บริษัทฯมีการส่งมอบงานและรับรู้รายได้รวมทั้งกำไรตามเป้าที่วางไว้ ประกอบกับรายได้จากขายแก๊สธรรมชาติของบริษัทบิ๊กแก๊สเติบโตดี

ทั้งนี้ความคืบหน้าการนำบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (BIGGAS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทางบล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) คาดว่าจะยื่นแบบเสดงรายการข้อมูล ( Filing ) ในไตรมาสแรกของปี 2563 และอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม และให้สิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเดิม PSTC ได้สิทธิ์ในการจอง IPO หุ้นบิ๊กแก๊สจำนวนหนึ่ง

"ผลประกอบการไตรมาส 2 โตเด่นกว่าไตรมาส 1 มาก โรงไฟฟ้าดำเนินงานได้ตามแผน ส่วนการนำบริษัทลูก บิ๊กแก๊สเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ทางบล. ฟินันเซีย คาดว่าจะยื่น Filing ได้ในไตรมาสแรกของปี 2563 และอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม และให้สิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเดิม PSTC ได้สิทธิ์ในการจอง IPO หุ้นบิ๊กแก๊สจำนวนหนึ่ง " นายพระนาย กล่าว

ส่วนโครงการท่อน้ำมันส่วนขยายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้โครงการเดินหน้าไปพอสมควร โดยบริษัทฯ เดินหน้ายื่นเอกสารขอประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) กับทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ. ) ในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยตามกระบวนการแล้ว คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ จึงจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นขออนุมัติการลงทุนในลำดับถัดไป

สำหรับเงินลงทุน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดี จากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในประเทศจีน ร่วมกันกับธนาคารในประเทศ และมีพันธมิตรหลายราย ให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนระยะยาวด้วย

นายพระนาย กล่าวเพิ่มเติมว่า มองราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาเป็นการปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวม ซึ่งหากมาดูปัจจัยพื้ยฐานของบริษัทฯ ยังมีความแข็งแรง และยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ขณะที่แนวโน้มประกอบการยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง 
"ในส่วนของราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา น่าจะเพราะภาวะของตลาดที่ตกลงมาแรง ส่วนตัวมองว่าเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นในระยะยาว เนื่องจากพื้นฐานของบริษัทยังคงแข็งแรงและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลประกอบการในอนาคต ตามที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อต้นปี เรายังยืนยันเป้าหมายเดิม และเชื่อมั่นว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน" นายพระนาย กล่าว

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เดินสายพบกองทุนในประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยทางกองทุนให้คำแนะนำให้บริษัทฯ ย้ายเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทสไทย(SET) จากปัจจุบันที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ( mai) เนื่องจาก
ขนาดสินทรัพย์รวมที่โตอย่างรวดเร็วถึง 6,000 ล้านบาท และหากรวมโครงการตามแผนในอนาคตจะสามารถโตได้กว่า 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้นำเรื่องดังกล่าวปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินก่อนตัดสินใจ 
" หลังเดินสายพบกองทุนในประเทศ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทางกองทุนแนะนำให้ย้ายเข้า SET ด้วยผลการดำเนินงานและขนาดสินทรัพย์รวมที่โตอย่างรวดเร็วถึง 6,000 ล้านบาท และหากรวมโครงการตามแผนในอนาคต จะสามารถโตได้กว่า 10,000 ล้านบาท จึงอยู่ระหว่างการศึกษาข้อดีและข้อเสีย กับที่ปรึกษาทางการเงิน" นายพระนาย กล่าว

https://www.hooninside.com/news-feed/51343/view/