ข่าวสาร & กิจกรรม
PSTC Leader in Power Supply Solution
and Renewable Energy
PSTC ชิงเค้ก SPP Hybrid ดันPPA ตามเป้า 100 MW
ทันหุ้น-PSTC จัดทัพชิง PPA โครงการ SPP Hybrid Firm 300 MW สัปดาห์นี้ ใส่เกียร์ดันใบอนุญาตครบ 100 MW ตามแผน มั่นใจผลงานปี 60 ฟื้นคืนชีพ เหตุรับรู้รายได้ขายไฟฟ้าเต็มไตรมาส แย้มแผนลุยพลังงานลาว กัมพูชา ด้านโบรกเชื่อรัฐหนุนโครงการเพียบ ชี้เป้าแตะ 1.11 บาท
นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ผู้ออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า และตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อม รวมถึงผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกที่ครอบคลุมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวล พลังงานลมและพลังงานขยะ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมความพร้อมยื่นใบอนุญาตผลิตและขายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm จำนวน 300 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นเชื่อเพลิงชีวมวลเป็นวัตถุดิบตั้งแต่ 1 ชนิดเป็นต้นไป โดยทางการจะเปิดให้บริษัทเอกชนยื่นซองขอใบอนุญาตภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะยื่นขอใบอนุญาตประมาณ 3-4 โครงการ โครงการกำลังการผลิตแห่งละไม่เกิน 30-50 เมกะวัตต์ เบื้องต้นบริษัทคาดหวังจะได้โครงการอย่างน้อย 1 แห่ง ซึ่งบริษัทได้จัดเตรียมพื้นที่และวัตถุดิบไว้เรียบร้อยแล้ว หลักๆพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง
ชิง PPA โครงการใหม่
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าหาใบสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ครบตามแผนระยะยาว 3 ปี (2560-2562) ที่ 100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันบริษัทมีใบ PPA แล้ว 48 เมกะวัต์ สำหรับลงทุนในโครงการทั้งหมด บริษัทคาดว่าจะไม่มีปัญหา เนื่องจากปี 2559 บริษัทได้ขออนุมัติ คณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น เพื่อออกหุ้นกู้ จำนวน 1,500 ล้านบาท และตั๋วสัญญาเงินระยะสั้น (B/E) 500 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท คาดจะเพียงพอต่อการลงทุนในทุกโครงการ และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแน่นอน
ขณะที่แผนการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2560 บริษัทจะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 3/2560 เป็นต้นไป และคาดแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ตามจำนวนกำลังการผลิตที่มากขึ้น และบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพเพิ่มเติมอีกจำนวน 5.6 เมกะวัตต์ คาดจะดำเนินการผลิตและขายไฟฟ้า (COD) พร้อมกับรับรู้รายได้เข้ามาประมาณไตรมาส 4/2560
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจพลังงานต่างประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ประเทศลาว กัมพูชา เบื่องต้นบริษัทได้เจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุป
ตอกย้ำเทิร์นอะราวด์ปีนี้
นายพระนาย ระบุด้วยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการกลับมาเทิร์นอะราวด์หรือพลิกกลับมามีกำไร และมีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท จากสินปี 2559 ที่มีรายได้ 622.11 ล้านบาท และผลขาดทุน 38.55 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากการขายไฟฟ้าที่สูงขึ้นเป็น 30 เมกะวัตต์ ในสิ้นปี 2559 โดยจะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าในปีนี้เต็มกำลัง เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่ 4 เมกกะวัตต์ อนึ่ง 3 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 215.22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12.29 ล้านบาท
ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้โครงการรับซื้อโซล่าร์สหกรณ์รอบ 2 ที่ผ่านมาบริษัทจะไม่ได้กำลังการผลิตเพิ่มเติมในการคัดเลือกรอบแรก ทว่ายังคงเจรจากับสหกรณ์ที่ได้รับโคสต้าเพื่อเข้าเป็นผู้สนับสนุนอยู่ 3-4 ราย หากการลงทุนนั้นมีผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่ระดับ 8% (ยังไม่รวมในประมาณการ)
และด้วยศักยภาพของบริษัทที่มีประสบการณ์หลากหลายประเภททั้งพลังงานแสงอาทิตย์-ชีวมวล-ชีวภาพ จึงพร้อมต่อการเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าออกมาในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 ทั้งโครงการ SPP Hybrid Firm จพนวน 300 เมกะวัตต์ โครงการ VSPP Semi Firm จำนวน 269 MW (คาดเปิดรับซื้อช่วงต.ค.) และขยะชุมชน 78 MW ซึ่งจะเป็นส่วนเพิ่มให้กับพอร์ตโฟลิโอปัจจุบันที่มีกำลังผลิตสุทธิ 46.3 MW
ชี้เป้าแตะ 1.11 บาท
ทางฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมีมุมมองบวกต่อบริษัทแม้ว่าการเลื่อนรับรู้รายได้จกโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาจะทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2560 น้อยกว่าที่คาดไว้เดิม แต่ภาพที่ชัดเจนของกำไรโดเด่นในปี 2561 ทางฝ่ายเราจึงปรับพื้นฐานลงเป็น 1.11 บาท อิง วิธี Sum-of-the-part ก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวลงจากแรงขาย หลังถูกเก็งกำไรช่วงโควต้าโซล่าร์สหกรณ์ จึงเป็นโอกาสเข้าเพื่อลงทุนตามโมเมนตัมกำไรข้างหน้าเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาทางฝ่ายคงแนะนำ "ซื้อ"
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม 2560