ข่าวสาร & กิจกรรม
PSTC Leader in Power Supply Solution
and Renewable Energy
สแกนหุ้นฮอตติดชาร์ต EARTH-PSTC-SMIT
ประเดิมไตรมาส 2 กับงานสัมมนา "รวมพลคนทันหุ้น" ในรอบ "ผ่าความจริง หุ้นร้อน" ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ณ หอประชุมมหิศร อาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค ซึ่งแม้การจราจรจะติดขัดและฟ้าฝนไม่เป็นใจ แต่แฟนคลับของรวมพลคนทันหุ้นก็ไม่ได้จืดจางหรือถอยหนีแต่อย่างใด โดยช่วงเปิดมุมมองคนทันหุ้นผ่าน 3 ผู้บริหาร อาทิ
นายพฤทธิ์ สรญาณธนาวุธ กรรมการผู้จัดการ บมจ. สหมิตรเครื่องกล หรือ SMIT ตามมาด้วย นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH และนายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ร่วมโชว์ศักยภาพ โดยมี
นายบุญมี อ่อนน้อม บก.บห. นสพ.รายวันทันหุ้น ดำเนินรายการ
นายพฤทธิ์ สรญาณธนาวุธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) หรือ SMIT กล่าวถึง แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2560 บริษัทคาดจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าไตรมาส 1/2560 ที่มีรายได้ 509.52 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 54.58 ล้านบาท เนื่องจากสินค้าที่นำเข้ามาใหม่และกรรมวิธีการผลิตแบบใหม่ที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงการเพิ่มเครื่องจักรใหม่ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาบริษัทได้ซื้อที่ดินเพิ่ม 20 ไร่ เพื่อจะขยายคลังสินค้าและโรงงาน ทั้งนี้บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้ปี 2560 เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.05 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 196.85 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณออเดอร์ใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทก็จะพยายามรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการ พร้อมทั้งเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 2,000 ราย
นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดกการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 1/2560 ที่ผ่านมาบริษัทจะขาดทุนสุทธิถึง 68.93 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากบริษัทขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 341.40 ล้านบาท จากกรณีที่บริษัทได้พิจารณาออกหุ้นกู้มูลค่า 5 พันล้านบาทเป็นสกุลเงินบาท แต่บริษัทจัดทำงบการเงินเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทต้องบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งไม่ได้ขาดทุนจากผลประกอบการจริง ส่วนแนวโน้มธุรกิจทั้งปี 2560 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% หรืออยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบปี 2559 ที่มีรายได้รวมที่ 1.85 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาพรวมธุรกิจจะค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3-4/2560 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลขาย (ไฮซีซัน) ของอุตสาหกรรมถ่านหิน
นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ผู้ออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า และตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อม รวมถึงผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกที่ครอบคลุม ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวล พลังงานลมและพลังงานขยะ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมจับมือกับพันธมิตร เพื่อเข้าควบรวมกิจการ (M&A) ในธุรกิจพลังงานทดแทน 2 ราย โดยมีกำลังการผลิตรวม 46.8 เมกะวัตต์ สำหรับวิธีการเข้าลงทุน มีโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปถือหุ้น หรือ บริหารโรงไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตร โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้วคาดจะได้ข้อสรุปในปีนี้ นอกจากนี้ธุรกิจออกแบบจำหน่ายและติดตั้งระบบไฟฟ้า ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ที่รับรู้รายได้มากกว่า 300 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาภายในปีนี้เกือบทั้งหมด การออกแบบติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นงานของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก ทั้งนี้ภาพรวมทั้งปี 2560 บริษัทมั่นใจจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งในปีนี้บริษัทคาดจะสามารถทำรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากจำนวนเมกะวัตต์การขายไฟฟ้าที่สูงขึ้นเป็น 30 เมกะวัตต์ และคาดสัดส่วนรายได้จากการขายไฟจะเป็น 60-70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมารายได้จากการขายไฟในปีนี้จะเติบโตเป็น 100% จากปีที่ผ่าน ส่วนในปี 2561 และ 2562 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 1,300 ล้านบาท และ 1,500 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนช่วง "เปิดรายชื่อหุ้นทำเงิน Q2" ได้ 5 อรหันต์ อย่าง
นายรณกฤต สารินวงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เออีซี, นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์, นายณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี และนายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย
ร่วมฉายภาพแนวทางการลงทุนนายรณกฤต สารินวงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) แนะนำหุ้นเด่นแต่ละกลุ่ม ดังนี้ หุ้นที่มี P/E ต่ำและน่าสนใจลุงทุน เช่น MCS ,CFRESH,PSTC และ SNC, หุ้นเด่นปันผลสูงและน่าสนใจเช่น CFRESH, TVO, SNC และ TMT ขณะที่หุ้นเด่น High Upside เช่น TACC, SUSCO, BRR, SITHAI, ITEL, SCN และ XO, หุ้น Laggard ขนาดเล็ก PL และ IFS, หุ้นผลตอบแทนโดดเด่น เช่น LIT, AUCT, BEAUTY, SMPC และ WICE
นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยมองภาพรวมอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย (GDP) จะเติบโตถึง 3.3% จากเดิมเราคาดการณ์ไว้ 3.1% ถือว่าดีกว่าคาด โดยเป็นผลมาจากการส่งออกปรับตัวดีขึ้น แต่ยังขาดการลงทุนภาคเอกชนซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะเริ่มลงทุนมากขึ้นในไตรมาส 4/2560 ทั้งนี้จากไตรมาส 3/2560 นโยบายรถคันแรกครบกำหนดแล้ว ทำให้ความสามารถในการซื้อเริ่มกลับเข้ามาซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดียิ่งขึ้น สำหรับหุ้นเด่นในช่วงนี้ ฝ่ายวิจัยแนะนำหุ้นที่น่าสนใจกลับเข้ามาลงทุนได้ ได้แก่ "กลุ่มโรงพยาบาล"ที่น่าสนใจคือ บมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ BCH และ บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ หรือ CHG,"กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว" บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป หรือ ERW และ บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือMINT เพราะได้รับอานิสงส์ภาครัฐบาลมีการเตรียมตัวกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยให้กลับมาดีอีกครั้ง
นายณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บริษัท ซีไอเอ็มบี จำกัด
กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้แบ่งหุ้น 700 ตัว ออกเป็นชุดคือ A B C และ D ดังนี้ ชุด A มี 3 ตัวไม่ต้อง Cut Loss ถือระยะยาว เร็วที่สุด 6 เดือนคือ SCC, PTTGC, ADVANC, ชุด B มี 50 ตัว ไม่ต้อง Cut Loss คือ CPF, STA, TU, TVO, KSL, CBG, M, MINT, KTC, BLA, KTB, TCAP, TISCO, KKP, BANPU, IVL, AMATA, LH, PSH, WHA, SCCC, TASCO, TSTH, CK, BCP, EA, RATCH, GLOW, EGCO, IRPC, AH, BEC GRAMMY, MAJOR, BDMS, BH, CPALL, CPN, ROBINS, BJC, BEM ,BTS, AOT, THAI, HMPRO, INTUCH, THCOM DELTA, KCE และ HANA
นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า หุ้นแนะนำ มีดังนี้ บมจ. บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น หรือ BIG ที่ในช่วงนี้ยอดขายต่อสาขาโตขึ้น P/E อยู่ที่ 16 เท่า ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท และ บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ หรือ BEAUTY คนในปัจจุบันหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะในคนต่างจังหวัด P/E อยู่ที่ 34 เท่า ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท บมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ หรือ GLOBAL ในส่วนของ P/E อยู่ที่ 32 เท่า ราคาเป้าหมาย 25 บาท และ บมจ.บีซีพีจี หรือ BCPG โรงไฟฟ้าบางจาก โดย P/E อยู่ที่ 11 เท่า ปันผล 4.59% ราคาเป้าหมาย 15 บาท
งานจบลงด้วยดี ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีจาก AECS, APM, AIRA, PT, บมจ.ทีวีธันเดอร์, บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง, บล.คันทรี่ กรุ๊ป และ Becky Russell แล้วพบกันใหม่ในรอบต่อไปวันที่ 17 มิ.ย. ที่หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ กับสาระและแง่มุมที่เป็นเข็มทิศนำทางการลงทุนต่อไป
"แนวโน้มธุรกิจของ EARTH ทั้งปี 2560 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50 หรืออยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบปี 2559 ที่มีรายได้รวมที่ 1.85 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาพรวมธุรกิจจะค่อย ฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3-4 2560 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลขาย (ไฮซีซัน) ของอุตสาหกรรมถ่านหิน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันที่ 1 มิถุนายน 2560